







ออนไลน์ : 10
หัวข้อ :: พระธาตุฮวมแฮง (พระธาตุวาปีปทุม)
ประวัติวัดป่าหนองใต้
ตั้งอยุู่ที่บ้านหนองใต้ หมู่ที่ ๕ ตำบลขามปอ้ม อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม
ภายในวัดมีพระธาตุฮวมแฮง ซึ่งเกิดจากพลังศรัทธาของผู้มีบุญหลาย ได้มีโอกาสได้มาร่วมสร้างหลักใจซึ่งเป็นศาสนาสถานในด้านนวัตถุทางพระพุทธศาสนา ให้เกิดเป็นกองบุญข้างบึงขนาดใหญ่ ให้ชื่อว่า “พระธาตุฮวงแฮง” ขนาดตามกว้าง ๔๕ เมตร ความสูง ๖๑ เมตร งบการก่อสร้างคงเกินกว่าร้อยล้านบาท
คำปรารภของหลวงปู่ศรี มหาวีโร
หนองใต้ใหญ่เป็นหนองสาธารณะประโยชน์ คู่บ้านคู่เมืองมาแต่โบราณ เป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ในชุมชนละแวกนี้ ได้เป็นที่อาศัยทำมาหากินของผู้คนเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าทำการเกษตร เพาะปลูก ปลูกพืชผักธัญญาหารและอื่น ๆ เช่น แหล่งอาศัยของสัตว์น้อยใหญ่นานาชนิดจำนวนมากภายในวัดมีพระธาตุฮวมแฮง ซึ่งเกิดจากพลังศรัทธาของผู้มีบุญหลาย ได้มีโอกาสได้มาร่วมสร้างหลักใจซึ่งเป็นศาสนาสถานในด้านนวัตถุทางพระพุทธศาสนา ให้เกิดเป็นกองบุญข้างบึงขนาดใหญ่ ให้ชื่อว่า “พระธาตุฮวงแฮง” ขนาดตามกว้าง ๔๕ เมตร ความสูง ๖๑ เมตร งบการก่อสร้างคงเกินกว่าร้อยล้านบาท
คำปรารภของหลวงปู่ศรี มหาวีโร
ข้างหนองใต้ใหญ่ยังมี่โบราณสถานหลายแห่ง เช่น โนนเมืองเก่า ปัจจุบันปัจจุบันเรียกขานว่า โนนเมืองน้อย กู่เก่าโบราณเรียกขานกันมาชื่อ กู่มิถิลานคร และบ่อน้ำดื่มน้ำใช้โบราณเป็นบ่อน้ำที่ลึกมากถ้าลงไปก้นบ่อมองขึ้นจะมองเห็นดวงดาวตอนกลางวันได้
หนองใต้ใหญ่หลวงปู่ศรีเคยเล่าให้ศิษยานุศิษย์ฟังอยู่เสมอว่าในหนองใต้ใหญ่มีเรือทองคำจมอยู่ใต้ดินก้นหนอง ๑ ลำ และแก้วแหวนเงินทองและอื่น ๆ จำนวนมาก ในอดีตเคยเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองพอสมควรมาก่อน เจ้าเมืองถึงมีเรือทองคำนั่งได้ หนองใต้เมื่อก่อนเป็นหนองที่มีผีดุมาก
วันพระ ๘ ค่ำ ๑๕ ค่ำจะมีลูกแก้วลอยมาจากกู่มิถิลา ลอยมาในอากาศพอมาถึงใจกลางหนองลูกแก้วจะค่อย ๆ ลอยต่ำลง ๆ จนถึงผิดน้ำ ก็จะปรากฏแสงสว่างไสวพวยพรุ่งสว่างทั่วบริเวณหนองใต้ใหญ่ที่เดียว เป็นที่หวาดกลัวของผู้ที่พบเห็น
พ.ศ. ๒๕๒๘ ญาติโยมบ้านหนองใต้ ญาติโยมเมืองวาปี ได้เดินทางไปวัดป่ากรุง หรือวัดประชาคมวนาราม บ้านศรีสมเด็จ อำเภอศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด เพราะหลวงปู่ศรีจำพรรษาอยู่ที่นั่น เพื่อไปกราบอาราธนานิมนต์หลวงปู่มาเป็นประธานทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อสมทบทุนสร้างศาลาพระอุโสถหลังปัจจุบันท่านก็เมตตารับนิมนต์
พอถึงวันกำหนดงาน หลวงปู่ก็เดินทางมาร่วมรับบิณฑบาตฉันภัตตราหารเช้าเสร็จ จากฉันภัตราหารเช้าญาติธรรมก็รวมจตุปัจจัยไทยทานถวายหลวงปู่ศรี มหาวีโร
จากนั้นหลวงปู่ศรี มหาวีโร ได้เมตตาแสดงธรรมปฏิบัติให้สาธุชนที่มาร่วมทำบุญเป็นที่ประทับเป็นอย่างยิ่ง ท้ายของการแสดงธรรมท่านได้ปรารภว่า จะให้หน่วยงานกรมชลประทานจังหวัดมหาสารคาม มาสำรวจขุดลอก และจะให้ทำเป็นเกาะข้นมา ๓ เกาะ เกาะใหญ่เนื้อที่ ๖ ไร่ เกาะที่สองและเกาะที่สามเนื้อที่ ๕ ไร่ เพราะขณะนั้นหนองใต้ใหญ่เกิดการตื้นเขินอย่างมาก พอหน้าแล้งน้ำก็ขุ้นใช้ประโยชน์ได้น้อย
วันนั้นประกอบกับหัวหน้าชลประทานก็เดินทางมาร่วมทำบุญในครั้งนั้นด้วย หลวงปู่ก็ปรารภเรื่องการขาดแคลนน้ำให้หัวหน้ากรมชลประทานทราบ หัวหน้ากรมชลประทานก็รับไปปฏิบัติตามความประสงค์ทุกประการ
ในปีต่อมา พ.ศ. ๒๕๒๙ กรมชลประทานทำโครงการลงมือขุดให้ และได้ทำเป็นเกาะขึ้นมา ๑ เกาะ และได้ดินขึ้นมาถมที่สร้างพระธาตุในปัจจุบัน งบประมาณน้อยทำได้ครบทุกเกาะ หัวหน้าชลประทานก็มาการบหลวงปู่ทราบ และจะได้ดำเนินการให้สำเร็จโครงการตามวัตถุประสงค์ของหลวงปู่ต่อไป
พ.ศ. ๒๕๓๒ กรมชลประทานก็ได้ทำโครงการขุดลอกเสริมโครงการเดิมและได้ทำขึ้นมาเพิ่ม ๒ เกาะ หลวงปู่ก็เมตตามาตรวจเยี่ยมอยู่เรื่อย ๆ ตามโอกาส และสั่งให้พระเณรพาชาวบ้านหาต้นไม้มาปลูกให้เต็ม จะได้เป็นที่หลบภาวนาของภิกษุสงฆ์ สามเณรในการต่อไป
ยี่สิบสามปีที่ผ่านมาสถานที่ ๆ จะถมไว้ว่าสร้างเจดีย์ ก็มีแต่ความร่มรื่นเขียวขจีกับไม้นานาพันธุ์ที่ได้นำมาปลูก ไม่มีที่ว่าว่าจะมีเจดีย์เกิดขึ้นในสถานที่ตรงนี้เลย เพราะหลวงปู่ก็ไม่ได้กล่าวถึง ปี พ.ศ. ๒๕๓๒ ที่วัดผาน้ำย้อยหลวงปู่ก็กำลังสร้างเจดีย์ชัยมงคลขึ้น ซึ่งมีคณะศรัทธาใหญ่จากกรุงเทพฯ มาเป็นเจ้าภาพหลักในการก่อสร้างจึงทำให้ไม่เดือดร้อนเรื่องงบประมาณ มีศิษยานุศิษย์จากต่างประเทศมาร่วมทำบุญตลอด
ปี พ.ศ. ๒๕๕๒ พระอาจารสุวรรณ อาภาธโร ช่วงนั้นท่านยังจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าเกาะช้าง ตำบลเกาะพยาม อำเภอเมือง จังหวัดระนอง ท่านได้ขึ้นมางานหลวงปู่ศรี มหาวีโร ซึ่งตรงกับวันที่ ๓ พฤษภาคม ของทุก ๆ ปี
ท่านได้เข้าไปกราบหลวงปู่ศรี มหาวีโร ที่กุฎิกลางน้ำหลังปัจจุบัน ท่านได้เมตตาถามพระอาจารย์สุววณ อาภาธโรว่า มาจากวัดได๋หล่ะ พระอาจารย์เลยตอบไปว่า มาจากวัดป่าเกาะช้าง จังหวัดระนอง ครับผม (หลวงปู่) แต่ก่อนยุใสหล่ะ (พระ อาจารย์) แต่ก่อนบวชเกิดที่บ้านหนองใต้ ลูกผู้ใหญ่บุญเหลือ ปู่ชื่อผู้ใหญ่นวนที่เป็นเสี่ยวผีนายอำเภอนั่นแหละครับ ไปบวชที่ถ้ำมโหราฬ จังหวัดเลย แล้วกลับมาจำพรรษาที่วัดหนองใต้ ออกจากหนองใต้ ไปจำพรรษาที่กาญจนบุรี วัดศรีญาณสังวร ไปจำพรรษาที่วัดป่าเกาะช้าง จังหวัดระนองครับ (หลวงปู่) ไปจำทุกจังหวัดเด้อในวัดสาขา (พรอาจารย์) ได้แต่ยิ้ม ๆ ยกมือสาธุ พระอาจารย์สุวรรณ ก็เลยกราบเรียนถามเรื่องที่ค้างคาใจตลอดระยะเวลายาวนานว่า หลวงปู่ครับ เจดีย์ที่หนองใต้เมื่อไหร่หลวงปู่จะเมตตานำพาสร้างน้อครับผม หลวงปู่ก็ยิ้ม ๆ แล้วตอบว่า “ผู้มีบุญจะมาร่วมกันสร้างอยู่” ท่านพระอาจารย์สุวรรณ ก็นึกในใจขึ้นมาว่าใครหนอจะเป็นผู้มีบุญพาร่วมสร้าง ท่านก็นึกถึงแต่หลวงปู่นั้นแหละที่มีบุญวาสนาบารมีมากท่านก็คิดได้แค่นั้น หรือจะเป็นหลวงพ่อทองอินทร์หนอ ท่านก็เป็นพระอาวุโส พรรษารองจากหลวงปู่ศรี มหาวีโร ที่จะเป็นผู้นำพาสร้างต่อไป ท่านก็คิดได้แค่นั้นเพราะมันเป็นเรื่องใหญ่ในการก่อสร้างเพราะใช้งบประมาณมาก พอท่านทราบคำตอบจากหลวงปู่ในเรื่องที่ได้กราบเรียนถามทั้งดีใจและข้องใจ ดีใจก็คืออยากเห็นเจดีย์ขึ้นในสถานที่ตรงนี้ ข้องใจคือใครหนอที่จะมีบุญยาบารมีพาร่วมสร้าง
พ.ศ. ๒๕๕๓ ท่านพระอาจารย์สุวรรณ อาภาธโร ได้จัดงานผูกพัทธสีมา ปิดทองฝังลูกนิมิต ในเดือนเมษายน ได้รับความเมตตาจากหลวงปู่ทองอินทร์ กตปุญโญ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ มีพระสงฆ์และฆราวาสญาติโยมลงไปร่วมงานเป็นจำนวนมาก ท่านก็อบอุ่นใจในความเมตตาจากพระสงฆ์และฆราวาสญาติโยมทุกทั่วสาระทิศ ทำให้งานในครั้งนั้นสำเร็จเสร็จสิ้นไปด้วยดี
ต่อมาก็ได้รับคำสั่งจากหลวงปู่ทองอินทร์ ว่าจะให้พระสงฆ์ไปสับเปลี่ยน จะส่งท่านไปจำพรรษาที่ออสเตรเลีย ท่านก็ได้ขึ้นมาจากวัดป่าเกาะช้าง มาพักจำพรรษาที่วัดหนองใต้เพื่อเดินเรื่องเอกสารในการเดินทาง
ต้นปี พ.ศ. ๒๕๕๔ มีโยมสามท่านมากราบแล้วบอกท่านว่ามีปัจจัยคนละ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท รวม ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาทมีศรัทธาอยากจะสร้างเจดีย์ที่วัดไหนก็ได้ ท่านพระอาจารย์ก็ตอบโยมทั้ง ๓ ไปว่า ที่วัดหนองใต้หลวงปู่ก็เคยปรารภไว้นะว่าจะสร้างเจดีย์ที่นี่ แต่ไม่ทราบว่ายังจะสร้างอยู่หรือเปล่า ต้องกราบเรียนถามท่านดูก่อน โยมทั้ง ๓ ท่านก็ตกลงที่จะไปกราบเรียนถามหลวงปู่ศรี มหาวีโร ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นปีที่หลวงปู่อาพาธหนักมากศิษยานุศิษย์ พาเข้าโรงพยาบาลศรีนครินทร์ขอนแก่นอยู่หลายเดือน
วันต่อมาพระอาจารย์สุวรรณ ก็ได้พาคณะศรัทธาเดินทางไปเยี่ยมการอาพาธของหลวงปู่ และจะได้ถามหลวงปู่ว่าท่านจะอนุญาตให้สร้างหรือไม่ พอไปถึงโรงพยาบาลศรีนครินทร์ขอนแก่น ก็เข้าไปที่ตึกสงฆ์อาพาธ ห้องพิเศษชั้น ๑๐ ก็ได้ถามพระอาจารย์ต๋อง หลวงปู่พระอาจารย์เจ็บป่วยเป็นอย่างไรบ้าง ท่านอาจารย์ต๋องตอบว่า หลวงปู่พูดไม่ได้แล้วนะ พระอาจารย์สุวรรณถามท่านอาจารย์ต๋องว่า แขนขายังมีความรู้สึกหรือไม่ พระอาจารย์ต๋องตอบว่า แขนขามีความรู้สึกอยู่
พระอาจารย์สุวรรณ ก็เล่าเรื่องให้พระอาจารย์ต๋องฟังว่า คณะศรัทธาที่มาเขาอยากจะสร้างเจดีย์ที่หนองใต้ที่หลวงปู่เคยปรารภไว้ตั้งแต่ ฑ.ศ.๒๕๒๘ ว่าจะสร้างเจดีย์ที่หนองใต้ มีงบแล้ว ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท หลวงปู่จะอนุญาตให้สร้างไหม ถ้าหลวงปู่อนุญาตให้หลวงปู่กำมืออาจารย์ต๋องนะครับ พอพูดจบหลวงปู่ก็กำมือก็แสดงว่าท่านอนุญาตให้สร้าง
ช่วงกลางปี ๒๕๕๔ พระอาจารย์สุวรรณได้รับคำสั่งจากหลวงปู่ทองอินทร์ให้ไปจำพรรษาที่ประเทศออสเตรเลีย ในเดือนมิถุนายน ๒๕๕๔ ท่านก็ได้ไปจำพรรษาที่ประเทศออสเตรเลีย วันที่ ๑๖ สิงหาคม ก็ได้รับข่าวเศร้าว่าหลวงปู่ได้มรณภาพแล้ว เป็นข่าวเศร้าที่สะเทือนใจของศิษยานุศิษย์ทั้งหลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ต่างก็เสียอกเสียใจเป็นอันมาก
พอออกพรรษาพระอาจารย์สุวรรณ อาภาธโร ก็ได้เดินทางกลับมาช่วยเตรียมงานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่ศรี มหาวีโรที่วัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) ทางวัดได้กำหนดงานวันพระราวชเพลิงศพหลวงปู่ นาวันที่ ๑๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕
พอเสร็จงานพระราชทานเพลิงสรีระหลวงปู่แล้ว หลวงปู่ทองอินทร์ กตปุญโญ ก็ได้มอบหน้าที่ดูแลนำพาในการสร้างพระธาตุฮวมแฮงต่อไป พระอาจารย์สุวรรณ ก็รีบดำเนินการปรับดินบริเวณที่จะก่อสร้างเพื่อให้ทันวัน เวลาที่กำหนดไว้คือ วันที่ ๕ เดือน ๕ พ.ศ. ๒๕๕๕ จะได้จัดงานวางศิลาฤกษ์ และได้ตั้งชื่อเจดีย์องค์นี้ว่า “พรธาตุฮวมแฮง” ตั้งตามความปรารภของหลวงปู่ ที่ท่านได้ปรารภว่า ผู้มีบุญจะมาร่วมกันสร้างก็คือผู้มีบุญหลายๆ ท่านจะมาร่วมกันสร้าง ดังนั้นพระอาจารย์สุวรรณ อาภาธโร จึงถอดชื่ออกจากคำดังกล่าวเป็นภาษาอีสานบ้านเฮาว่า “พระธาตุฮวมแฮง” ดังนี้
วันที่ ๕ เดือน ๕ พ.ศ. ๒๕๕๕ หลวงปู่ทองอินทร์ กรปุญโญ ก็ได้เมตตามาเป็นประธานวางศิลาฤกษ์ ตลอดทั้งศิษยานุศิษย์ทั้งฝ่ายบรรพชิตและฆราวาส มาจากทุกภาคในประเทศเป็นจำนวนมาก พองานวางศิลฤกษ์เสร็จสิ้นลง พระอาจารย์สุวรรณ อาภาธโร ก็พาญาติโยมช่วยกันทำในการสร้างเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน นับว่าเป็นกองทุนกองกุศลที่ยิ่งใหญ่จากพลังศรัทธาทุกทั่วสารทิศ ใกล้ไกลได้มาร่วมกันไม่ว่ากำลังกาย กำลังใจ กำลังศรัทธา ได้มาร่วมกันเป็นกองบุญข้างบึงที่ยิ่งใหญ่กองบุญหนึ่ง
วัตถุประสงค์ในการสร้าง
๑. เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสาริกธาตุ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้รับมอบจากรัฐสภา
๒. เพื่อเป็นที่ทำกิจกรรมสงฆ์ และอบรมธรรมปฏิบัติแก่พุทธบริษัทสี่
๓. เพื่อเป็นแหล่งศึกษาพุทธประวัติและชาดกกัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อจะได้เข้าใจในการดำรงชีวิตและสังคมให้อยู่เย็นเป็นสุข
๔. เพื่อเป็นมรดกให้แก่ผู้มีบุญที่ได้ร่วมกันสร้างและเป็นมรดกใจของผู้พบเห็นและได้เข้ามากราบไหว้
๕. เพื่อน้อมเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา อาจาริยะบูชา มาตาปิตาริยะบูชา
๖. เพื่อสนองเจตนารมณ์ของหลวงปู่ที่เมตตาชี้ทางให้ลูกหลานสู่ทางสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัติรย์สืบไป
พระธาตุฮวมแฮงเกิดจากพลังศรัทธาของผู้มีบุญหลาย ได้มีโอกาสได้มาร่วมสร้างหลักใจซึ่งเป็นศาสนาสถานในต้นวัตถุทางพระพุทธศาสนาให้เกิดเป็นกองบุญข้างบึงขนาดใหญ่ ให้ชื่อว่า “พระธาตุฮวงแฮง” ขนาดตามกว้าง ๔๕ เมตร ความสูง ๖๑ เมตร งบการก่อสร้างคงเกินกว่าร้อยล้านบาท

วันที่ : 24 มีนาคม 2563 View : 3143